Hotline: 097-262-9000
Email: infosiam01@gmail.com
ตู้สแตนเลส 2 ชั้น
ตู้สแตนเลส 2 ชั้น ฝาหน้ากระจกหรือทึบ คืออุปกรณ์สำหรับติดตั้งระบบควบคุมไฟฟ้าหรือระบบอัตโนมัติต่าง ๆ โดยออกแบบให้มีชั้นแยกภายในตัวตู้ 2 ชั้น เพื่อแยกการทำงานของอุปกรณ์อย่างเป็นระบบ โดยฝาด้านหน้าอาจเป็นกระจกใสหรือฝาทึบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน ส่วนฝาด้านในจะเป็นแบบทึบเพื่อความปลอดภัยและป้องกันการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยตรง ฝาหน้ากระจกเหมาะสำหรับงานที่ต้องการเห็นสถานะการทำงานของอุปกรณ์ เช่น การทำงานของอินดิเคเตอร์ หรือการแสดงผลจากหน้าจอ HMI โดยไม่ต้องเปิดตู้ ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย ส่วนฝาทึบจะเหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องแสดงผลภายนอก
สินค้าแนะนำและใกล้เคียง
การออกแบบฝาหน้ากระจกหรือทึบ ฝาในทึบ
ตู้สแตนเลส 2 ชั้นช่วยให้สามารถแบ่งพื้นที่ภายในเพื่อแยกอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันต่างกัน เช่น วงจรควบคุมและวงจรกำลัง ลดโอกาสเกิดการรบกวนกันของอุปกรณ์ ช่วยให้การเดินสายไฟเป็นระเบียบ และง่ายต่อการซ่อมบำรุงหรือปรับปรุงระบบในอนาคต ฝาด้านในที่เป็นแบบทึบยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเปิดฝาด้านหน้าแล้ว ยังมีชั้นกันอีกชั้นหนึ่งก่อนถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่วยลดโอกาสการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ และลดความเสี่ยงจากไฟฟ้ารั่วหรืออุบัติเหตุ
รายละเอียดสินค้าและราคา
สินค้าและบทความใกล้เคียง
สามารถเพิ่มอุปกรณ์ตู้สแตนเลส 2 ชั้น
ามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริมตามความต้องการใช้งานได้ เช่น พัดลมระบายอากาศ ฮีตเตอร์กันความชื้น ช่องเดินสายไฟ หรือพอร์ตเชื่อมต่อระบบสื่อสาร ทำให้รองรับการทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติหรือ IoT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถออกแบบภายในให้ติดตั้งแผงเมาท์ติ้งและรางไฟอย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้สะดวกต่อการเดินสายไฟฟ้าและการตรวจสอบ ในด้านความปลอดภัย ตู้ประเภทนี้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการควบคุมระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อน หรือมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก เช่น ระบบ SCADA, ระบบ PLC, หรือระบบควบคุมเครื่องจักรที่ต้องมีการตรวจสอบสถานะเป็นประจำ ฝาหน้ากระจกช่วยลดความจำเป็นในการเปิดตู้บ่อยครั้ง จึงลดการเสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนหรือไฟฟ้าช็อต
คุณสมบัติโดยละเอียดของตู้ไฟสแตนเลส
| คุณสมบัติ | รายละเอียด |
|---|---|
| วัสดุผลิตตู้ | สแตนเลสเกรด 304 (หรือ 316L สำหรับพื้นที่ที่มีสารเคมีหรือไอเค็มสูง) |
| ความหนาแผ่นเหล็ก | 1.5 มม. – 2 มม. |
| ฝาตู้ | ฝาเดียว เปิดด้านหน้า พร้อมบานพับและกุญแจล็อก |
| ซีลกันน้ำ | ยางกันน้ำรอบประตูชนิด Spong Rubber |
| แผ่นติดตั้งอุปกรณ์ | แผ่นสแตนเลสภายในสำหรับยึดอุปกรณ์ไฟฟ้า |
| รูปแบบการติดตั้ง | แบบตั้งพื้น มีขาชุบแข็งแรง หรือเจาะรูยึดพื้น |
| มาตรฐานการป้องกัน (IP) | IP55 – IP66 (ขึ้นอยู่กับแบบซีลและโครงสร้าง) |
| การใช้งานทั่วไป | ใช้ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบควบคุมเครื่องจักร โรงงานอาหารยา เคมี และพื้นที่กลางแจ้ง |
รองรับอุปกรณ์ควบคุมที่มีความร้อน
ตู้สแตนเลส 2 ชั้นแบบฝาหน้ากระจกหรือทึบ ฝาในทึบ ไม่เพียงแค่ให้ความแข็งแรงและทนทานในเชิงโครงสร้างเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย การแยกฟังก์ชันระบบ และความสะดวกในการดูแลรักษา เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐานสูงทั้งในด้านเทคนิคและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและควบคุมอัตโนมัติ
ในระบบไฟฟ้ายังสามารถปรับให้รองรับอุปกรณ์ควบคุมที่มีความร้อนสูงได้ เช่น อินเวอร์เตอร์ หรือไดรฟ์มอเตอร์ โดยสามารถเพิ่มแผ่นระบายความร้อน พัดลมหรือช่องระบายอากาศเสริม เพื่อให้ภายในตู้คงอุณหภูมิที่เหมาะสม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของอุปกรณ์ภายใน โดยเฉพาะในโรงงานที่มีอุณหภูมิสูงหรือระบบทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
ความสะดวกในด้านการบำรุงรักษา
ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถเปิดตรวจสอบอุปกรณ์ชั้นบนหรือชั้นล่างได้โดยไม่กระทบกัน ช่วยประหยัดเวลา ลดความผิดพลาดในการเดินสาย และเพิ่มความปลอดภัยขณะทำงาน นอกจากนี้หากมีฝาหน้ากระจก ยังช่วยให้สามารถมองเห็นสถานะไฟเตือนหรือจอควบคุมได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดฝา ซึ่งเหมาะกับงานที่ต้องตรวจสอบระบบบ่อย ๆ เช่น งานสาธารณูปโภค หรืองานผลิตแบบต่อเนื่อง
การออกแบบภายในของตู้ยังสามารถรองรับการติดตั้งระบบโมดูลาร์ เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าแบบแผงเสียบ (modular) หรือแผงควบคุมที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย เพิ่มความยืดหยุ่นเมื่อต้องการอัปเกรดระบบหรือขยายฟังก์ชันการใช้งานในอนาคต
ตู้สแตนเลสสั่งผลิตตามแบบ ฝาประตู 2 ชั้น
ตู้ควบคุมหรือบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ออกแบบและผลิตตามความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งาน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ “ฝาประตู 2 ชั้น” ซึ่งประกอบด้วยประตูชั้นนอก และประตูชั้นในที่เป็นฉนวนหรือแผงกั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน และรองรับระบบไฟฟ้าที่มีความซับซ้อนมากขึ้น การออกแบบฝาประตู 2 ชั้นช่วยแยกส่วนการใช้งานของอุปกรณ์ได้ชัดเจน เช่น ประตูนอกอาจเป็นแบบกระจกเพื่อให้มองเห็นอุปกรณ์หรือสถานะการทำงานโดยไม่ต้องเปิดตู้ ส่วนประตูชั้นในเป็นฝาทึบที่ป้องกันการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยตรง เพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะในระบบแรงดันสูงหรือระบบอัตโนมัติ
New series
2025
การสั่งผลิตตู้กันน้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ประเภทของตู้ (แขวนผนัง, ตั้งพื้น, มีหลังคา) ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน, ประเภทประตู (บานเดี่ยวหรือบานคู่), มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น IP55, IP65 หรือ IP66 และวัสดุที่ใช้ (สแตนเลส 304 หรือ 316) ซึ่งขึ้นอยู่กับความทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมีต่างๆ การเลือกตู้ไฟฟ้าที่ตรงกับความต้องการจะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น.
| ข้อกำหนด | คำอธิบาย |
|---|---|
| 1. ประเภทของตู้ | – ตู้แขวนผนัง (Wall-Mounted): ติดตั้งบนผนัง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือในพื้นที่จำกัด – ตู้ตั้งพื้น (Floor-Standing): รองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับโรงงานหรือสถานีไฟฟ้า – ตู้มีหลังคา (With Roof): เหมาะสำหรับการติดตั้งกลางแจ้ง ป้องกันน้ำฝนและแสงแดดได้ดี |
| 2. ขนาดของตู้ และฟังค์ชั่นเพิ่มเติม | ขนาดต้องพิจารณาจากอุปกรณ์ที่จะติดตั้ง เช่น ขนาดของแผงควบคุมไฟฟ้า, เครื่องมือ หรือวงจรไฟฟ้า รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ติดตั้ง |
| 3. ประเภทประตู | – บานเดี่ยว (Single Door): เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กและใช้งานง่าย – บานคู่ (Double Door): เหมาะกับตู้ขนาดใหญ่ที่ต้องการเปิดกว้างเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ |
| 4. มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) | – IP55: กันฝุ่นบางส่วนและน้ำที่มีแรงดันปานกลาง – IP66: ป้องกันฝุ่น 100% และกันน้ำแรงดันสูง |
| 5. วัสดุที่ใช้ | – สแตนเลส 304: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ทนทานต่อการกัดกร่อน |
ข้อดีของการสั่งผลิตตามแบบตู้สแตนเลส 2 ชั้น
ามารถกำหนดตำแหน่งการเจาะรู จุดติดตั้งอุปกรณ์ แผงเมาท์ติ้งภายใน ช่องระบายอากาศ หรือการเดินสายไฟได้อย่างเหมาะสม ทำให้ตู้รองรับการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความยุ่งยากในภายหลัง และช่วยให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในทำงานได้อย่างปลอดภัยฝาประตู 2 ชั้นยังช่วยในการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในตู้ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อติดตั้งระบบระบายอากาศ ฮีตเตอร์ หรือพัดลม พร้อมซีลกันน้ำและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP55 หรือ IP65 เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหรือสิ่งสกปรกเข้าสู่ตู้
ตู้แบบฝา 2 ชั้นมีชั้นป้องกันเพิ่มเติม ช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อต้องเปิดฝาด้านนอกเพื่อดูสถานะหรือปรับแต่ง เพิ่มความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานในสถานการณ์ที่ระบบยังมีกระแสไฟอยู่
แยกพื้นที่การทำงานอย่างเป็นระบบ
ฝาชั้นในช่วยแยกวงจรควบคุมและวงจรกำลังหรือแยกอุปกรณ์ตามประเภทการใช้งาน ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความเป็นระเบียบ ป้องกันการรบกวนของวงจร และสะดวกต่อการซ่อมบำรุงหรือปรับปรุงในอนาคตตรวจสอบสถานะได้โดยไม่ต้องเปิดฝา (ในกรณีฝาหน้ากระจก)
สามารถมองเห็นหน้าจอ HMI สถานะไฟ LED หรือมิเตอร์วัดค่าต่าง ๆ ได้ทันทีผ่านฝากระจก โดยไม่ต้องเปิดตู้ ลดการสัมผัส ลดฝุ่นหรือน้ำเข้า และเพิ่มความปลอดภัยรองรับงานระบบที่ซับซ้อนและต้องการมาตรฐานสูง
เหมาะกับโรงงานที่มีระบบควบคุมหลากหลาย เช่น SCADA, PLC, หรือระบบอัตโนมัติที่ต้องมีการแยกฟังก์ชันอย่างชัดเจน ซึ่งตู้ทั่วไปอาจไม่สามารถรองรับได้อย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบเพิ่มความทนทานและอายุการใช้งาน
ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง เช่น เกรด 304 หรือ 316 ซึ่งทนสนิม ทนสารเคมี และใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมรุนแรง ทั้งภายนอกอาคาร พื้นที่เปียก หรือพื้นที่ที่มีไอเค็มออกแบบได้ตามสเปกงานจริง
ตู้สแตนเลส 2 ชั้น เป็นงานสั่งผลิต ทำให้สามารถปรับขนาด รูปแบบ การเจาะช่อง หรือการติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้สอดคล้องกับการใช้งานได้พอดี ต่างจากตู้ทั่วไปที่มีขนาดมาตรฐานจำกัด
อธิบายสรุป
ตู้สแตนเลส 2 ชั้น คือโซลูชันตู้ควบคุมไฟฟ้าที่ออกแบบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นระเบียบในการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ โดยมีลักษณะเด่นคือมีฝาประตู 2 ชั้น ได้แก่ ฝาด้านนอกที่อาจเป็นกระจกหรือฝาทึบ และฝาด้านในที่เป็นฝาทึบสนิท เพื่อแยกการเข้าถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าและป้องกันการสัมผัสโดยตรง เหมาะกับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าสูง ระบบ PLC หรือ SCADA การมีฝา 2 ชั้นช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการใช้งานจริง เช่น เมื่อต้องเปิดฝาด้านนอกเพื่อดูสถานะของระบบ แต่ไม่ต้องสัมผัสหรือเข้าใกล้ส่วนที่มีกระแสไฟโดยตรง โดยเฉพาะในกรณีที่ฝาด้านนอกเป็นกระจก ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบไฟสถานะ หน้าจอแสดงผล หรือระบบควบคุมอัตโนมัติต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเปิดตู้ ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟดูด
นอกจากนี้ ยังช่วยให้การจัดวางอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในเป็นระเบียบมากขึ้น เพราะสามารถแยกพื้นที่ใช้งาน เช่น ชั้นในสำหรับวงจรกำลัง และอีกชั้นสำหรับอุปกรณ์ควบคุมหรือแสดงผล ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในระบบที่ซับซ้อน ลดการรบกวนระหว่างอุปกรณ์ และช่วยให้การบำรุงรักษาเป็นไปได้สะดวกยิ่งขึ้น วัสดุที่ใช้ผลิตตู้ส่วนใหญ่เป็นสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ซึ่งทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมอาหาร ยา พื้นที่เปียก หรือบริเวณใกล้ทะเล และรองรับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ฝุ่น หรือไอเค็มได้ดีเยี่ยม
FAQ คำถามที่พบบ่อย