ตู้สแตนเลสเก็บของ
ตู้สแตนเลสเก็บของ หรือ ตู้สแตนเลสเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า เป็นตู้ที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บและปกป้องอุปกรณ์ทางไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์ รีเลย์ เซอร์กิตบอร์ด หรือแม้แต่เครื่องมือไฟฟ้าและอุปกรณ์ควบคุมระบบต่าง ๆ โดยโครงสร้างของตู้ผลิตจากแผ่นสแตนเลสคุณภาพสูง ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อน ความชื้น และฝุ่นละออง จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง
การจัดระเบียบตู้สแตนเลสวงจรไฟฟ้า
ตู้เหล่านี้มักใช้ในการจัดระเบียบ วงจรไฟฟ้าและสายไฟ ให้ปลอดภัย ไม่ยุ่งเหยิง และป้องกันการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อบุคคลได้ การมีตู้สำหรับเก็บวงจรไฟฟ้าโดยเฉพาะยังช่วยให้การซ่อมบำรุงทำได้ง่ายขึ้น ตรวจสอบจุดเสียได้รวดเร็ว และเป็นระเบียบเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต
รายละเอียดสินค้าและราคา
สินค้าและบทความใกล้เคียง
ตู้สแตนเลสมีระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำ
ตู้สามารถเลือกให้มีระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP เช่น IP54, IP65 หรือ IP66 เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ภายในจะปลอดภัยจากความชื้น น้ำ หรือฝุ่นละอองในโรงงานหรือพื้นที่กลางแจ้ง ทั้งยังสามารถเพิ่มซีลยางกันน้ำ ประตูล็อกปลอดภัย และช่องระบายความร้อน เพื่อรองรับการใช้งานในงานระบบควบคุมที่มีความร้อนสะสมสูง นอกจากการใช้งานเชิงวิศวกรรม สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา ซึ่งต้องการความสะอาดสูง ตัววัสดุสแตนเลสไม่สะสมเชื้อโรค ง่ายต่อการทำความสะอาด และดูเรียบร้อยในสายตาผู้ตรวจสอบมาตรฐาน เช่น GMP, HACCP หรือ ISO
ตารางสรุปคุณสมบัติโดยละเอียดตู้เก็บของสแตนเลส
| หัวข้อ | รายละเอียด |
|---|---|
| วัสดุ (Material) | สแตนเลส 304 / 316L (ทนสนิม ทนสารเคมี) |
| ความหนาแผ่น (Thickness) | 1.5 – 2.0 มม. (ขึ้นอยู่กับขนาดและการใช้งาน) |
| มาตรฐานการป้องกัน (IP) | IP54, IP55, IP65, IP66 (กันฝุ่น กันน้ำ) |
| ระบบซีล (Gasket) | ยางกันน้ำ (Spong Rubber) รอบขอบประตู |
| ระบบล็อก (Locking) | Quarter Turn / Key Lock / กุญแจกลม |
| รูปแบบประตู (Door Type) | บานเดี่ยว / สองบาน / ฝาเฉียง / ฝาใส |
| รูปแบบการติดตั้ง | ตั้งพื้น / แขวนผนัง / มีล้อ / ฝังกับผนัง |
| รองรับอุปกรณ์ภายใน | เพลตยึดอุปกรณ์ / รางเดินสาย / บล็อกต่อสาย / ระบบกราวด์ |
| อุปกรณ์เสริม | พัดลม, ฮีตเตอร์, ช่องกรองฝุ่น, จอ HMI, ปุ่มกด |
| พื้นผิว (Surface Finish) | Hairline / Mirror Finish (ทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมเชื้อ) |
| ใช้งานในอุตสาหกรรม | อุตสาหกรรมอาหาร, ยา, เคมี, ระบบไฟฟ้า, ระบบควบคุมอัตโนมัติ, โซลาร์เซลล์ ฯลฯ |
| การสั่งผลิต (MTO) | รองรับแบบสั่งทำตามขนาด, ตำแหน่งรู, อุปกรณ์เสริมเฉพาะทาง |
ระบบล็อกและความปลอดภัย
ถือเป็นอีกจุดเด่น ตู้สแตนเลส มักมาพร้อมกุญแจล็อกแบบ Quarter Turn, Key Lock หรือกุญแจแบบกดปุ่มเพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต และสามารถติดตั้งระบบล็อกแบบสองชั้นหรือระบบกุญแจแยกตามมาตรการความปลอดภัยเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม
ในกรณีที่ใช้งานในพื้นที่อุณหภูมิสูงหรือพื้นที่ชื้นมาก เช่น โรงไฟฟ้า ห้องควบคุมระบบไอน้ำ หรือพื้นที่กลางแจ้ง สามารถติดตั้ง พัดลมระบายอากาศ, ฮีตเตอร์ป้องกันความชื้น, หรือช่องระบายอากาศพร้อมแผ่นกรองฝุ่น ได้ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในและป้องกันการควบแน่นของไอน้ำที่อาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย
ตู้สแตนเลสเก็บของอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า
ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งความแข็งแรงและการใช้งานจริง โดยโครงสร้างตู้มักผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ซึ่งมีความหนาเฉลี่ยประมาณ 1.5 – 2.0 มม. ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของตู้ ทำให้รองรับแรงกระแทกจากภายนอกได้ดี เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือบริเวณที่อาจมีการชนกระแทกจากรถโฟล์กลิฟต์ เครื่องจักร หรือวัสดุขนาดใหญ่
ภายในของตู้ สามารถติดตั้งแผ่นเพลตเหล็กหรือสแตนเลสสำหรับยึดอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์ รีเลย์ Timer หรือ PLC ได้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมทั้งรองรับการเดินรางสายไฟ ติดตั้งช่องต่อสาย (Cable Gland) หรือกล่องแยกสาย (Junction Box) ได้ตามต้องการ เพื่อให้การจัดการวงจรภายในตู้มีความปลอดภัยและตรวจสอบได้ง่ายในภายหลัง
ตู้สแตนเลสเก็บของใช้งานในพื้นที่อุณหภูมิสูง
ในกรณีที่ใช้งานในพื้นที่อุณหภูมิสูงหรือพื้นที่ชื้นมาก เช่น โรงไฟฟ้า ห้องควบคุมระบบไอน้ำ หรือพื้นที่กลางแจ้งสามารถติดตั้ง พัดลมระบายอากาศ, ฮีตเตอร์ป้องกันความชื้น, หรือช่องระบายอากาศพร้อมแผ่นกรองฝุ่น ได้ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในและป้องกันการควบแน่นของไอน้ำที่อาจทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย สามารถสั่งทำพิเศษในรูปแบบเฉพาะ เช่น ติดตั้งบนขาตั้ง, หรือ มีฝาเปิดด้านบน-ด้านข้าง เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงหรือใช้งานตามลักษณะงานเฉพาะทาง เช่น งานซ่อมบำรุงเคลื่อนที่, งานติดตั้งภาคสนาม, หรือระบบควบคุมเฉพาะจุดในพื้นที่จำกัด
การสั่งผลิตตู้กันน้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ประเภทของตู้ (แขวนผนัง, ตั้งพื้น, มีหลังคา) ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน, ประเภทประตู (บานเดี่ยวหรือบานคู่), มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น IP55, IP65 หรือ IP66 และวัสดุที่ใช้ (สแตนเลส 304 หรือ 316) ซึ่งขึ้นอยู่กับความทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมีต่างๆ การเลือกตู้ไฟฟ้าที่ตรงกับความต้องการจะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น.
| ข้อกำหนด | คำอธิบาย |
|---|---|
| 1. ประเภทของตู้ | – ตู้แขวนผนัง (Wall-Mounted): ติดตั้งบนผนัง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือในพื้นที่จำกัด – ตู้ตั้งพื้น (Floor-Standing): รองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับโรงงานหรือสถานีไฟฟ้า – ตู้มีหลังคา (With Roof): เหมาะสำหรับการติดตั้งกลางแจ้ง ป้องกันน้ำฝนและแสงแดดได้ดี |
| 2. ขนาดของตู้ และฟังค์ชั่นเพิ่มเติม | ขนาดต้องพิจารณาจากอุปกรณ์ที่จะติดตั้ง เช่น ขนาดของแผงควบคุมไฟฟ้า, เครื่องมือ หรือวงจรไฟฟ้า รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ติดตั้ง |
| 3. ประเภทประตู | – บานเดี่ยว (Single Door): เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กและใช้งานง่าย – บานคู่ (Double Door): เหมาะกับตู้ขนาดใหญ่ที่ต้องการเปิดกว้างเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ |
| 4. มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) | – IP55: กันฝุ่นบางส่วนและน้ำที่มีแรงดันปานกลาง – IP66: ป้องกันฝุ่น 100% และกันน้ำแรงดันสูง |
| 5. วัสดุที่ใช้ | – สแตนเลส 304: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ทนทานต่อการกัดกร่อน |
โครงสร้างของตู้ไฟฟ้ามีความหนาอยู่ในช่วง 1.5–2.0 มม.
ตู้สแตนเลส อุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและปกป้องระบบไฟฟ้าภายใน เช่น เบรกเกอร์ รีเลย์ เซอร์กิตบอร์ด หรือตู้ควบคุม PLC โดยออกแบบมาให้มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ทั้งภายในอาคาร โรงงาน และพื้นที่กลางแจ้ง จุดเด่นของตู้ประเภทนี้คือวัสดุที่ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ซึ่งมีคุณสมบัติกันสนิม ทนต่อการกัดกร่อนจากความชื้น น้ำเค็ม หรือสารเคมีต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม
เพื่อให้แข็งแรงพอสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชนิด โดยสามารถเสริมแผ่นเพลตยึดอุปกรณ์ด้านใน รวมถึงรองรับการเจาะรูสำหรับติดตั้งสายไฟ, ท่อร้อยสาย หรือกล่องแยกสัญญาณ ตู้บางรุ่นอาจเพิ่มอุปกรณ์เสริมได้ เช่น พัดลมระบายอากาศ ฮีตเตอร์ หรือช่องกรองฝุ่น เพื่อช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างเสถียรแม้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือชื้นมาก
ระบบซีลยางรอบขอบประตู (Gasket) เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำไม่ให้เข้าสู่ภายในตู้ โดยทั่วไปจะผ่านมาตรฐาน IP55 หรือ IP65 ตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าช็อตหรือระบบลัดวงจรที่เกิดจากความชื้นหรือฝุ่นสะสม
ระบบล็อกของตู้มีความหลากหลาย เช่น กุญแจกลม, Quarter Turn หรือแบบ Key Lock ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะสมกับระดับความปลอดภัยที่ต้องการ บานพับมักใช้วัสดุสแตนเลสเช่นกันเพื่อให้ทนทานต่อการเปิด-ปิดบ่อยครั้งโดยไม่สึกหรอ ทั้งยังรองรับการล็อกหลายจุดในกรณีที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น ในห้องควบคุมหรือระบบที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้าถึง
ตู้สแตนเลสเก็บของ ยังสามารถสั่งผลิตแบบเฉพาะ (Made to Order) ได้ เช่น เลือกความสูง ความกว้าง ความลึก หรือรูปแบบฝา (ฝาเดียว, สองบาน, ฝาหน้าใส, ฝาเฉียง) เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานที่จำกัดหรือมีข้อกำหนดเฉพาะทาง เช่น ห้องควบคุมในโรงงาน, ระบบ SCADA, หรือตู้ควบคุมเครื่องจักรเฉพาะด้าน ทำให้การจัดการภายในตู้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ผลงานของเรา
ตู้สแตนเลสเก็บของอุปกรณ์ไฟฟ้าและวงจรไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่ตู้เก็บของธรรมดา แต่เป็นโซลูชันสำหรับการปกป้องอุปกรณ์สำคัญให้ปลอดภัยจากสภาพแวดล้อม เสริมความเป็นระเบียบในการติดตั้ง และรองรับการดูแลบำรุงรักษาในระยะยาวอย่างมืออาชีพ เหมาะสำหรับทั้งงานระบบภายในอาคาร อุตสาหกรรมหนัก และงานติดตั้งภาคสนามที่ต้องการความทนทานสูง คุณสมบัติด้านความทนทานและความปลอดภัยแล้ว ถูกออกแบบให้รองรับการปรับแต่งภายในได้อย่างยืดหยุ่น ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ เช่น รางเดินสายไฟ, บล็อกต่อสายไฟ, เซนเซอร์ หรือแม้แต่จอแสดงผล (HMI) เพื่อใช้ควบคุมเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ การมีพื้นที่จัดวางอย่างชัดเจนภายในตู้ยังช่วยให้สามารถบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรื้อระบบทั้งหมด
สุดท้าย อีกข้อดีสำคัญของตู้ไฟสแตนเลสคืออายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าตู้เหล็กพ่นสีหรือพลาสติกทั่วไป แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง ไอน้ำ หรือสารเคมีเจือปน วัสดุสแตนเลสจะยังคงสภาพดี ไม่บิดงอหรือเสื่อมสภาพง่าย ลดความถี่ในการซ่อมบำรุง และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่หรืออุปกรณ์ในระยะยาว
ในด้านความปลอดภัย ตู้สามารถเสริมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในเพิ่มเติม เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์, ระบบกราวด์, ฟิวส์ หรือระบบตัดไฟอัตโนมัติ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าภายในมีความเสถียร ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร และรองรับการติดตั้งตามมาตรฐานความปลอดภัยไฟฟ้า เช่น มาตรฐาน IEC หรือ UL ได้ตามที่โปรเจกต์ต้องการ





สอบถามและปรึกษาเกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง
บริการนำเข้าทางเครื่องบิน (Air Freight)
มีสต็อกพร้อมส่งในประเทศ รองรับการใช้งานได้ทันที
✅ จัดส่งได้ทันทีภายใน 1–2 วันทำการ
✅ ปริมณฑล และต่างจังหวัด 2-3 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน) **สามารถระบุได้
สั่งผลิตตามขนาดและความต้องการใช้งานได้
✅เลือกขนาดได้อิสระ: กำหนด ความกว้าง x ความสูง x ความลึก ตามพื้นที่ใช้งาน








