Hotline: 097-262-9000
Email: infosiam01@gmail.com
ตู้สแตนเลส 304
ตู้สแตนเลส 304 คือ ตู้สำหรับติดตั้งและป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ผลิตจากวัสดุ สแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นในด้าน ความทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม และสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ฝุ่น หรือละอองน้ำได้ดี จึงเป็นที่นิยมใช้งานในระบบไฟฟ้าทั้งภายในและภายนอกอาคาร ติดตั้งไฟฟ้าในสถานที่กลางแจ้ง เช่น เสาไฟฟ้า อาคารสำนักงานภายนอก หรือระบบโซล่าเซลล์
สินค้าแนะนำและใกล้เคียง
ตู้สแตนเลส 304 มีหลายขนาดและหลายรูปแบบ
ขนาดและหลายรูปแบบ เช่น ตู้แบบติดผนัง แบบตั้งพื้น หรือแบบหลังคาเฉียง เพื่อให้เหมาะกับลักษณะการติดตั้งที่หลากหลาย และสามารถเลือกติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น พัดลมระบายความร้อน ซีลยางกันน้ำ หรือแผ่นยึดอุปกรณ์ภายในเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน มาตรฐาน IP55, IP66 ซึ่งหมายถึงระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในจะปลอดภัยจากความเสียหายที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหรือไอน้ำสูง
รายละเอียดสินค้าและราคา
รูปแบบของตู้ไฟฟ้าสแตนเลส 304
ตู้ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ติดตั้งและป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์ คอนแทคเตอร์ อินเวอร์เตอร์ หรือระบบควบคุมต่าง ๆ ภายในตู้ ซึ่งผลิตจากวัสดุ สแตนเลสเกรด 304 ซึ่งเป็นสแตนเลสคุณภาพสูง มีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่เป็นสนิม ทนต่อความชื้น สารเคมี และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ได้ดี ทำให้ตู้ประเภทนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงพื้นที่ที่มีสภาวะการกัดกร่อนสูง เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานเคมี หรือพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ด้วยความแข็งแรงของวัสดุ สแตนเลส 304 ช่วยให้ตู้มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่บิดงอง่าย ไม่เปราะหรือแตกหักจากแรงกระแทก และสามารถปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ความชื้น หรือไอน้ำ ด้วยมาตรฐานระดับการป้องกันอย่าง IP55, IP65 หรือ IP66 ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ภายในจะทำงานได้อย่างเสถียรและปลอดภัยแม้ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน
ตัวอย่างการเลือกขนาดท่อ (โดยประมาณ)
| ปริมาณลม (CFM) | ขนาดท่อแนะนำ (นิ้ว) |
|---|---|
| 300 | 6″ |
| 500 | 8″ |
| 1,000 | 10″–12″ |
| 2,000 | 16″–18″ |
| 3,000+ | 20″ ขึ้นไป |
✅ สรุป
การเลือกขนาดท่อ spiral ที่ถูกต้อง ช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานมีประสิทธิภาพ ไม่เสียงดัง ไม่กินไฟเกินจำเป็น และยืดอายุอุปกรณ์อื่นในระบบ หากเป็นโครงการขนาดใหญ่ ควรให้วิศวกรออกแบบโดยใช้โปรแกรม Ductulator หรือซอฟต์แวร์เฉพาะทางเพื่อความแม่นยำ
รูปแบบของตู้ Stinaless 304
รูปแบบของมีให้เลือกหลากหลาย เช่น แบบประตูเดียว ประตูสองบาน ตู้ติดผนัง หรือแบบมีหลังคาเฉียง เพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำขัง ทั้งยังสามารถสั่งทำตามขนาดหรือแบบเฉพาะ (Made to Order) ได้ตามลักษณะหน้างาน ไม่ว่าจะติดตั้งในแนวตั้งหรือแนวนอน ติดกับเครื่องจักร หรือติดผนังอาคาร ตู้สามารถปรับแต่งภายใน เช่น แผงยึดอุปกรณ์ ซีลยางกันน้ำ บานพับ หรือกุญแจล็อก เพื่อรองรับการใช้งานได้หลากหลาย
ตู้สแตนเลส 304 ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ เช่น อุตสาหกรรมอาหารและยา ที่ไม่สามารถใช้ตู้เหล็กพ่นสีทั่วไปได้ เนื่องจากมีโอกาสเกิดสนิมหรือการปนเปื้อน วัสดุสแตนเลสมีผิวที่เรียบเนียน ทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมเชื้อโรค จึงตอบโจทย์พื้นที่ที่ต้องการสุขอนามัยสูง และทนต่อการล้างด้วยน้ำหรือสาร
ข้อได้เปรียบการดูแลรักษาที่ง่าย
สแตนเลส 304 การดูแลรักษาที่ง่าย ไม่ต้องทาสีหรือเคลือบผิวเพิ่ม เหมาะกับการใช้งานระยะยาว และให้ความคุ้มค่าในแง่ของต้นทุนการบำรุงรักษา นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบระบายอากาศหรือระบบป้องกันความร้อน เช่น ติดตั้งพัดลมหรือแผงระบายความร้อน เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในตู้เมื่อใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อนสูง
เป็นโซลูชันที่ครอบคลุมการใช้งานในระบบไฟฟ้าสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้าง ระบบโซลาร์เซลล์ อาคารพาณิชย์ หรือแม้กระทั่งในโครงการระบบอัตโนมัติขนาดใหญ่ ที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน และความปลอดภัยสูง พร้อมทั้งรองรับมาตรฐานสากลด้านการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
โครงสร้างตู้สแตนเลสไฟฟ้า
ออกแบบให้สามารถป้องกันฝุ่น น้ำ และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ได้ตามมาตรฐาน IP เช่น IP55 หรือ IP66 โดยซีลยางกันน้ำและแผงรองอุปกรณ์ภายในจะช่วยเสริมความปลอดภัย ป้องกันการลัดวงจร และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ภายในให้ยาวนานยิ่งขึ้น การเลือกตู้ที่มีมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในงานติดตั้งที่ต้องการความเสถียรและปลอดภัยสูง ตู้ชนิดนี้มีให้เลือกหลายขนาด หลายแบบ เช่น ตู้ประตูเดียว ตู้สองบาน ตู้แขวนผนัง ตู้ตั้งพื้น หรือแบบมีหลังคาเฉียง ทั้งนี้ยังสามารถสั่งผลิตแบบพิเศษ (Made to Order) เพื่อให้สอดคล้องกับหน้างานได้ด้วย
New series
2025
การสั่งผลิตตู้กันน้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ประเภทของตู้ (แขวนผนัง, ตั้งพื้น, มีหลังคา) ขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน, ประเภทประตู (บานเดี่ยวหรือบานคู่), มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น IP55, IP65 หรือ IP66 และวัสดุที่ใช้ (สแตนเลส 304 หรือ 316) ซึ่งขึ้นอยู่กับความทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมีต่างๆ การเลือกตู้ไฟฟ้าที่ตรงกับความต้องการจะช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น.
| ข้อกำหนด | คำอธิบาย |
|---|---|
| 1. ประเภทของตู้ | – ตู้แขวนผนัง (Wall-Mounted): ติดตั้งบนผนัง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือในพื้นที่จำกัด – ตู้ตั้งพื้น (Floor-Standing): รองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับโรงงานหรือสถานีไฟฟ้า – ตู้มีหลังคา (With Roof): เหมาะสำหรับการติดตั้งกลางแจ้ง ป้องกันน้ำฝนและแสงแดดได้ดี |
| 2. ขนาดของตู้ และฟังค์ชั่นเพิ่มเติม | ขนาดต้องพิจารณาจากอุปกรณ์ที่จะติดตั้ง เช่น ขนาดของแผงควบคุมไฟฟ้า, เครื่องมือ หรือวงจรไฟฟ้า รวมถึงพื้นที่ที่ใช้ติดตั้ง |
| 3. ประเภทประตู | – บานเดี่ยว (Single Door): เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กและใช้งานง่าย – บานคู่ (Double Door): เหมาะกับตู้ขนาดใหญ่ที่ต้องการเปิดกว้างเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ |
| 4. มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP Rating) | – IP55: กันฝุ่นบางส่วนและน้ำที่มีแรงดันปานกลาง – IP66: ป้องกันฝุ่น 100% และกันน้ำแรงดันสูง |
| 5. วัสดุที่ใช้ | – สแตนเลส 304: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ทนทานต่อการกัดกร่อน |
คุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ คือ “สแตนเลสเกรด 304
เกรด 304 อุตสาหกรรมที่นิยมมากที่สุด ด้วยส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิลในสัดส่วนที่พอเหมาะ ทำให้ตู้มีความสามารถในการทนต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อนจากสารเคมีต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยม ตอบโจทย์การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานยา โรงงานเคมี รวมถึงพื้นที่ติดทะเลที่มักมีไอเกลือซึ่งก่อให้เกิดสนิมง่าย ความแข็งแรงของโครงสร้างเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ตู้ไฟฟ้าสตีลเกรด 304 ส่วนใหญ่มักมีความหนา 1.5 – 2 มม. ซึ่งมากพอจะทนต่อแรงกระแทกหรือการใช้งานหนัก เช่น การติดตั้งเบรกเกอร์ อินเวอร์เตอร์ หรือรีเลย์ต่าง ๆ โดยไม่เสียรูป และยังสามารถรับน้ำหนักอุปกรณ์ภายในตู้ได้ดี ไม่เกิดการบิดงอเมื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิม ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิล ช่วยให้ตู้สามารถต้านทานสนิม ความชื้น และสารเคมีได้ดี เหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือมีไอเคมี เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ริมทะเล
แข็งแรง ทนแรงกระแทกได้ดี ด้วยความหนาของวัสดุประมาณ 1.2 – 1.5 มม. ตู้มีความแข็งแรงสูง ไม่บิดงอ รองรับการติดตั้งอุปกรณ์หนักหรือการใช้งานที่มีแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมั่นคง
รองรับมาตรฐาน IP55–IP66 มาพร้อมซีลยางกันน้ำและการออกแบบที่ป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าสู่ภายในตู้ได้ตามมาตรฐาน IP เหมาะกับการใช้งานทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง
ดีไซน์และขนาดหลากหลาย มีให้เลือกหลายแบบ เช่น ตู้ประตูเดียว ตู้สองประตู ตู้แขวนผนัง หรือแบบหลังคาเฉียง และสามารถสั่งผลิตแบบเฉพาะ (Made to Order) ได้ตามหน้างานจริง
พื้นผิวแฮร์ไลน์หรือด้านเรียบ ช่วยให้ดูสะอาด ทันสมัย และง่ายต่อการทำความสะอาด เหมาะกับอุตสาหกรรมอาหารและยา ที่เน้นความสะอาดและสุขอนามัย
ติดตั้งง่าย พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน ตู้สแตนเลส มาพร้อมแผ่นรองยึดอุปกรณ์ (Mounting Plate), กุญแจล็อคแบบ Quarter Turn, และบานพับสแตนเลส เพื่อความสะดวกในการเปิด–ปิด และการติดตั้งอุปกรณ์ภายใน
ผลงานของเรา
ด้านการป้องกัน ได้รับการออกแบบให้มีซีลยางกันน้ำ และจุดเชื่อมรอบขอบที่แน่นหนา เพื่อป้องกันฝุ่นละออง น้ำ หรือไอความชื้นจากภายนอกเข้าสู่ภายในตู้ จึงสามารถผ่านมาตรฐานระดับ IP55 – IP66 ได้ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้วัดความสามารถในการกันฝุ่นและน้ำ เหมาะสำหรับทั้งการติดตั้งภายในอาคารและภายนอกที่ต้องเผชิญกับฝนหรือแสงแดดโดยตรง รูปแบบการใช้งานก็มีความหลากหลาย ตู้สามารถเลือกได้ทั้งแบบติดผนัง แบบแขวน แบบประตูเดียว แบบสองประตู หรือแบบมีหลังคาเฉียงที่ช่วยป้องกันน้ำฝนตกค้างด้านบน ทั้งยังสามารถเพิ่มช่องระบายอากาศ พัดลม หรือแผงติดอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ เพื่อให้เหมาะสมกับระบบไฟฟ้าเฉพาะด้าน เช่น ระบบควบคุมเครื่องจักร ระบบโซลาร์เซลล์ หรือระบบออโตเมชั่นต่าง ๆ
สุดท้าย ตู้สแตนเลส 304 ยังสามารถผลิตตามสั่ง (Made to Order) ได้ รองรับความต้องการเฉพาะทางของลูกค้า เช่น ตู้ขนาดพิเศษ ระบบล็อคเฉพาะ หรือการเพิ่มจุดเจาะร้อยสายไฟล่วงหน้า เหมาะสำหรับโปรเจกต์วิศวกรรมระบบไฟฟ้า ที่ต้องการความปลอดภัย ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นในการออกแบบอย่างแท้จริง.
FAQ คำถามที่พบบ่อย